สำนักงานส่งเสริมการค้าไทยในต่างประเทศ
สำนักงานส่งเสริมการค้าไทยในต่างประเทศ
ปิ่น ปี 4 คณะรัฐศาสตร์ สาขาการระหว่างประเทศ
สำนักงานส่งเสริมการค้าไทยในต่างประเทศ (สคต.) ที่เวียงจันทน์
ส่วนตัวเคยไปและอยากไปลาว จริง ๆ มี 2 แบบคือ 1.ถ้าฝึกในไทยก็อยากจะฝึกในที่ ๆ ได้เงินเดือนด้วย (ก็เป็นสายเอกชน) 2.ฝึกราชการก็อยากจะไปฝึกที่ต่างประเทศ ส่วนหนึ่งก็เพราะอยากออกไปเที่ยวด้วย และก็อยากได้ประสบการณ์ ที่มองว่าการยื่นฝึกงานราชการที่ต่างประเทศเองในอนาคต ยากกว่าการที่มีมหาลัยรองรับ เลยเป็นอีกส่วนที่ทำให้อยากไปฝึกต่างประเทศด้วย ส่วนเหตุผลในการเลือกประเทศ คือ ไม่อยากไปไกลมาก เลยคิดว่าลาวเป็นช้อยส์ที่เหมาะสม ประกอบกับเรียน PO370 และ PO371 ซึ่งเกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน SEA แล้วสนใจ จึงสรุปเลือกลาว ซึ่งหลังจากนั้นก็มาหาข้อมูลต่อว่าในลาวมีสำนักงาน/หน่วยงานอะไรที่เป็นทีมประเทศไทยอยู่บ้าง มีสถานเอกอัครราชทูตไทยในเวียงจันทน์ สถานกงสุลใหญ่สะหวันนะเขต แล้วก็สคต. ที่เวียงจันทน์ โดยยื่นสมัครไปยังสถานทูตไทย กับ สคต. เวียงจันทน์ เพราะมองว่าน่าจะสะดวกกว่าสะหวันนะเขตและเลือกแหล่งที่ตอบก่อน คือ สคต. ซึ่งจะอยู่ภายใต้กระทรวงพาณิชย์ในประเทศ และมีสถานทูตร่วมดูแลในต่างประเทศ ซึ่งก็จะมีการโคงานกับสถานทูตร่วมด้วย หากจะหาสถานที่ฝึกงานแนะนำให้ค้นหา Keyword ว่า "ทีมประเทศไทย"
แนะนำให้ใช้ Email ในการติดต่อหาที่ฝึกงาน เพราะเป็นทางการมากที่สุด แต่เราก็สามารถที่จะทักไปสอบถามข้อมูลเบื้องต้นผ่าน Facebook ได้ สิ่งที่แนะนำในการส่ง Email สอบถามเรื่องฝึกงาน คือ ควรถามไปก่อนว่ามีนโยบายรับนักศึกษาฝึกงานไหม มีความสนใจที่จะยื่นฝึกงาน ฝึกงานช่วงเวลาไหน รับจำนวนกี่คน ถ้าเปิดรับเราต้องทำอย่างไรหรือส่งต้องเอกสารอะไรบ้าง (*Requirement แล้วแต่สถานที่ ๆ เรายื่นฝึก บางที่ต้องเขียน essay ส่งด้วย)
จากนั้นยื่นสมัครตามเงื่อนไขนั้นและรอการตอบกลับ สิ่งที่ยื่นไป คือ CV และใบรับรองจากคณะคัดเลือกแบบมาก่อนได้ก่อน (first come first serve) รับเข้า 2 คน เพราะองค์กรที่ไปฝึกงานไม่ใช่องค์กรใหญ่ (*รุ่นพี่ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีคนไปในประเทศเพื่อนบ้านเยอะเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ใกล้สุดจะเป็นมาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งรุ่นพี่ปิ่นน่าจะเป็นรุ่นแรก ๆ ที่ไปฝึกที่ลาวและในประเทศ ASEAN มากขึ้นกว่าปีก่อน ๆ) แต่ว่าพอไปถึง (หลังจากคัดเลือกแล้ว) วันแรกจะได้เข้าไปนั่งคุย กับผอ.สำนักงาน เกี่ยวกับข้อมูล ความรู้พื้นฐานว่าทำไมถึงอยากมาฝึกที่นี่ รู้อะไรบ้าง เป้าหมายที่ต้องการคืออะไร (คล้ายการสัมภาษณ์แต่ไม่ได้ซีเรียสมาก)
ส่วนตัวมองว่าเกรดสำคัญเพราะแสดงถึงความรับผิดชอบต่องานและความรอบรู้ แต่กิจกรรมก็สำคัญเหมือนกันเพราะแสดงถึงทักษะการเข้าสังคมและการแบ่งเวลาในการใช้ชีวิต คิดว่ามีผลเท่า ๆ กันทั้งคู่ไม่สามารถแยกจากกันได้ อยากฝึกงานที่ไหนให้ลองยื่นไปก่อน ยื่นหลายที่ก็ได้ ไม่ควรตัดโอกาสตัวเอง อยากลองทำงานแบบไหนก็เลือกฝึกให้เหมาะสมกับเรา
สิ่งที่คณะจัดเตรียมให้ คือ จะมีคนนอกคณะมาสอน 2 อย่าง คือ เขียนจดหมายราชการ และ Excel เบื้องต้น เริ่ม training ประมาณมีนา-เมษา ซึ่งจะต้องเข้าอบรมทุกคนเพราะถือเป็นส่วนหนึ่งของ PO400 แล้วจะมีเกณฑ์ว่าผ่าน/ไม่ผ่าน ส่วนการเขียน CV ส่วนตัวแนะนำให้ระบุสิ่งที่เคยทำไปเลยแล้วก็เรียงความสำคัญด้วย แต่ควรสอดคล้องกับความเป็นองค์กรนั้นด้วย เช่น ถ้ายื่นสมัคร HR แล้วเราเคยทำกิจกรรมที่เป็นการ Recruit คน ก็อาจจะใส่ไปเป็นอันดับแรกได้ นอกจากนี้เราสามารถใส่พวกคอร์สเรียนออนไลน์ต่าง ๆ จากมหาลัยอื่นๆ ลงไปใน CV ได้ (จะเป็น extracurricular ก็ได้) ในรายละเอียดใน CV ของพี่มี แนะนำตัว,กำลังมองหาตำแหน่งไหน, รร.ที่จบมา, เกรด, กิจกรรม, งานอดิเรก, สิ่งที่สนใจ, ทักษะต่าง ๆ
1) รู้จักพื้นฐานประเทศลาว เช่น culture ทั่วไป อาหาร สกุลเงิน ที่อยู่อาศัย แผนที่เมืองที่ไปอยู่เบื้องต้น สามารถใช้เงินไทยจ่ายในลาวได้ เป็นต้น
2) รู้ว่าการต่อวีซ่าทำในลักษณะใดได้บ้าง ให้เราสะดวกที่สุด จาก case ของพี่คือไปลาว ถ้าเข้าแบบไม่มี visa สามารถอยู่ได้ 30 วัน (แต่ถ้าขอ visa จะได้ประมาณ 90 วัน) ซึ่งพี่เข้าแบบถือ passport แต่ไม่มี visa แล้วก็ค่อยข้ามแดนมาปั้มตราประทับซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายมากกว่า การเข้าแบบมี visa นอกจากนี้ลาวเป็นประเทศที่สามารถข้ามไป-กลับได้ และระยะทางมาด่านก็ไม่ได้ไกลมาก
3) เตรียมข้อมูลวิธีใช้ชีวิตทั่วไป เช่น จองที่พักก่อนจองตั๋วไปลาว แนะนำ Airbnb เพราะคุ้มค่าดี ค่าครองชีพไม่ค่อยต่างจากไทยและอาจจะถูกกว่า พยายามหาที่พักที่ดูปลอดภัยและใกล้สถานที่ทำงาน ซึ่งเราสามารถขอคำแนะนำจากพี่ที่ฝึกงานเพิ่มเติมได้ และควรที่จะขอ contact ของพี่เลี้ยงที่ฝึกงานเผื่อไว้ด้วย
4) ตั๋วเครื่องบิน ถ้าเลือกสายการบิน low cost ราคาก็จะถูกลงมาอีก หรือถ้าใครอยากไปเส้นทางอื่น ก็สามารถศึกษาได้เพราะสามารถนั่งรถข้ามมาจากฝั่งไทยได้เหมือนกัน
หน้าที่ที่ได้ทำที่ สคต. คือ ทำทุกอย่างเหมือนกับพี่ที่ประจำในสำนักงานเลยโดยมีพี่เลี้ยงดูแลให้คำแนะนำและสอนระหว่างการทำงานด้วย ซึ่งตัวเนื้องานมีความหลากหลาย ไม่ซ้ำกัน มีทั้งทำงานใน Office และทำงานนอกสถานที่ด้วย เวลาเข้างาน 8:30 - 16:30
- การเซ็นต์เอกสารเข้า-ออกสำนักงาน
- การให้คำปรึกษาทั้งแบบออนไซต์และออนไลน์กับผู้ประกอบการที่สนใจที่จะมาลงทุนในลาว
- จดสรุปบันทึกการประชุมให้พี่เลี้ยง
- ต้อนรับคณะลงทุนจากประเทศไทย
- การโปรโมตสินค้าไทย เช่น Food & Fair Festival งานแสดงสินค้าไทย (เป็นแม่งาน ซึ่งจะต้องจัดกิจกรรม จัดบูธ ค่อยสำรวจสังเกตการณ์ว่ามีคนมาเยอะมั้ย สินค้าไทยขายดีมั้ย ผู้ประกอบการมีใครบ้าง ต้องคอยช่วย organizer ทำงาน ต้องช่วยต้อนรับท่านทูตจากหลายประเทศ ต้องแก้ไขอะไรเพิ่มเติมมั้ย)
- การเยี่ยมเยียนเจ้าของธุรกิจไทยในลาว
- การลงสำรวจพื้นที่สินค้า คือไปพูดคุยกับร้านค้าในลาวถึงสินค้าไทยเพื่อเก็บเป็นฐานข้อมูลให้กับสคต. ว่าสินค้าของไทยเป็นที่นิยมมั้ยถ้าต้องการที่จะเปิดตลาดในลาว
- งานแปลบทความจากภาษาลาว-ภาษาไทย
- จัดประชุมออนไลน์ Business Matching
- ทำ Infographic ข่าวเศรษฐกิจลาวประจำสัปดาห์
- ตรวจสอบตัวเลขการนำเข้า-ส่งออกสินค้า
- ทำ Presentation ช่องทางการตลาด
- งานประเมินผลประจำเดือน
- งาน call-center โทรอัพเดตธุรกิจร้านค้าในลาว Update เพื่อเป็นฐานข้อมูลให้ สคต.
ส่วนตัวรู้สึกชอบงานที่ไปทำมาก เพราะเป็นงานที่ใหม่และไม่เคยทำมาก่อนเลย หลายงานเป็นงานที่ท้าทายความสามารถมาก ๆ จริง ๆ ตอนแรกก็มีความกังวลอยู่ว่าจะทำได้มั้ยเพราะเนื้องานเกี่ยวข้องกับเศรษฐศาสตร์เลยรู้สึกไม่มั่น ใจ แต่พอได้ลองทำและก็พี่ ๆ ทุกคนสอนงานโดยตรงก็รู้สึกว่างานมันสนุกมาก สิ่งที่ชอบอย่างนึง คือ ถ้าทำงานพลาดพี่เลี้ยงรวมไปถึงผอ. จะไม่ด่าแล้วก็ให้กำลังใจด้วย ส่วนงานที่รู้สึกว่าท้าทายมาก ๆ คือ งานสำรวจพื้นที่สินค้า เพราะแบบต้องไปพูดคุยกับเจ้าของร้านโดยตรง ซึ่งก็ไม่ใช้ทุกร้านที่จะเต็มใจบอกข้อมูลให้เราหรือเป็นมิตรกับเราขนาดนั้น
พี่ ๆ ในสำนักงานน่ารักมาก อยู่กันแบบครอบครัวแล้วก็ในสำนักงานมีคนทำงานไม่เกิน 10 คน ไม่ค่อยเคร่งครัด ไม่ต้องใส่ชุดนักศึกษาแค่ใส่ชุดทำงานที่เหมาะสมตามกาลเทศะ เวลาออกงาน Fair ก็เปิดกว้าง Freestyle อยากใส่ชุดอะไรก็ได้ มีความเป็นกันเองสูง ผู้อำนวยการสอนงานเอง พี่เลี้ยงดูแลดี ไม่มี Hierarchy และทุกคนรับฟังกันหมด การทำงานยืดหยุ่น เน้นผลลัพธ์และประสิทธิภาพในการทำงาน วัฒนธรรมองค์กรดีจึงสามารถปรับตัวได้ง่าย
อยู่ให้เป็น พยายามสังเกตบริบทคนในที่ทำงานว่าเป็นแบบไหน ชวนพี่ ๆ คุย ถึงเราไม่พูดพี่ ๆ ก็จะชวนเราคุย ชวนกินข้าวด้วยกันอยู่แล้ว ไม่ยากที่จะปรับตัว อย่ากลัวการเข้าหาคน
ทักษะการสรุปความ เพราะคนที่เรียนรัฐศาสตร์ อาจจะชินกับการเขียนยาว แต่ที่ฝึกงานอยากให้เราเขียนสั้น กระชับ ได้ใจความ และชัดเจนเพื่อที่จะเอาไปนำเสนอ/เผยแพร่ข้อมูลให้คนภายนอกรู้ต่อ ถ้ายาวไปคนก็จะไม่อ่าน
ทักษะการทำอินโฟกราฟิก
ทักษะการฟังจับใจความ เพราะว่าเราแทบจะไม่มีเวลามาย้อนหรือถอดเทป ฟังเสร็จ ต้องทำสรุปส่งเลย
ทักษะภาษา
ทักษะการใช้ชีวิต/การเอาตัวรอด
บรรยากาศการทำงานน่ารักมาก ไม่เคร่งครัด ไม่ต้องใส่ชุดนักศึกษา อย่างที่บอกมีความเป็นกันเอง ผู้อำนวยการสอนงานเอง พี่เลี้ยงดูแลดี ไม่มี Hierarchy และรับฟังกันหมด เวลาเข้างาน 8:30 - 16:30 น. การทำงานยืดหยุ่น เน้นประสิทธิภาพในการทำงาน วัฒนธรรมองค์กรดีจึงสามารถปรับตัวได้ง่าย
เมืองปลอดภัยและสะดวก งานไม่ยากเกินความสามารถ ได้จัดงานใหญ่ ได้พบเจอนักลงทุนและผู้บริหารระดับสูง ได้รู้จักคนมากขึ้นทั้งคนไทยในลาวหรือคนลาวเอง ได้เปิดหูเปิดตามากขึ้น เป็นการเปิดโอกาสและประสบการณ์ให้ตัวเอง เคยกลัวว่าจะใช้ชีวิตไม่ได้ แต่เมื่อฝึกจบรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นเยอะมาก รู้จักสังเกตขึ้น ใช้ชีวิต เอาตัวรอดได้ ได้ความรู้มากขึ้น เข้าใจสังคมการทำงานและได้ประสบการณ์ในการทำงานมากขึ้น ถึงแม้จะไม่ได้เงินเดือนแต่ว่าได้มิตรภาพและพี่ ๆ ในสำนักงานก็เลี้ยงดูดี เลี้ยงอาหาร พาเที่ยว ซึ่งมองว่ามันคุ้มค่ามากกว่า ได้คำแนะนำจากที่ฝึกงานว่าระยะเวลา 2 เดือนอาจจะน้อยไป ปัจจุบันยังติดต่อกับพี่และเพื่อนที่ฝึกงานอยู่ การฝึกงานที่นี่ถือเป็น Perception ใหม่สำหรับเรา
เราจะต้องส่ง 2 อย่างคือ รายงานรูปเล่มหลังจบฝึกงานกับรายงานที่เป็นแบบรายสัปดาห์ นอกจากนี้มีการนัด ZOOM เพื่อ follow-up กับอาจารย์ (*ซึ่งคณะจะเป็นคนจัดอาจารย์ให้) แล้วก็ที่ฝึกงานมีใบ certificate ให้ด้วย (ซึ่งจริง ๆ ใบนี้ไม่ต้องเอามายื่นให้ที่คณะ แล้วก็พี่เลี้ยงทำใบส่งตัวกลับให้ด้วย อันนี้ทำเผื่อไว้ก่อน) สิ่งสำคัญคือ ใบประเมินจากคณะ ซึ่งจะให้เรามา 2 ใบ แต่ว่าจะให้พี่เลี้ยงเป็นคนทำแล้วส่งให้ที่คณะเลย เกรด PO400 จะเป็นแค่ผ่าน/ไม่ผ่าน
ในคณะไม่ใช่แค่วิชาใดวิชาหนึ่งที่ได้มาและนำไปใช้โดยตรงเพราะต้องประกอบกัน วิชาที่ได้ใช้ คือ PO282 ได้อ่านบทความเยอะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นบทความจีนและ SEA ซึ่งมีประโยชน์ในแง่เข้าใจสภาพความเป็นลาวและ SEA ความช่วยเหลือของจีนมากขึ้นรวมไปถึง PO370 PO371 ที่ทำให้เข้าใจความเป็น SEA มากขึ้นมาก ๆ แต่วิชาที่มองว่าน่าจะตรงตัวกับที่ฝึกงาน คือ วิชา EC210 และ IB แต่ส่วนตัวเรียนโทประวัติศาสตร์ ไม่ได้เรียน IB แต่ก็ไม่ได้รู้สึกตามไม่ทัน สามารถทำได้ เพราะหลายสิ่งหลายอย่างเราสามารถเรียนรู้ได้และพี่เลี้ยงก็สอนงานด้วย แนะนำว่าคนที่เรียน IB น่าจะชอบ ดังนั้นวิชาที่แนะนำให้ลง คือ PO282, PO370, PO371, PO396, วิชา IB และ วิชาภาษาจีน (แต่ที่ลาวมีทั้งภาษาไทย/ลาว/เวียดนาม/จีน/อังกฤษ/ฝรั่งเศส)
อยากลองทำภาคเอกชนดูบ้าง ถ้าชอบภาครัฐมากกว่าจะกลับมาภาครัฐ อยากเห็นตัวเองทั้ง 2 ดูว่าแบบไหนเหมาะกับเรามากที่สุด แต่ก็บอกไม่ได้อีกว่าจะชอบภาครัฐในไทยมั้ยเพราะคิดว่ามีความแตกต่างกันสูงในแง่ของการทำงานที่ลาวอาจจะมีภาษีที่มากกว่าคนอื่นบ้างนิดหน่อยตรงที่เคยมีประสบการณ์ การทำงานที่ลาว เราได้รู้จักงาน รู้จักคนมาแล้ว
ถ้าอยากฝึกที่ไหนให้ลองยื่นไปก่อน อย่าพึ่งคิดว่าเราจะทำไม่ได้ ติดต่อไปก่อน อย่าตัดโอกาสตัวเอง ส่งemailไปเลยประมาณ 3-4 ที่ (แต่จะมีบางที่ที่ส่งหว่านไม่ได้ เช่น กต.)
สคต. เป็นองค์กรที่ไม่ได้ใหญ่มาก อยู่กันแบบครอบครัวตั้งแต่ ผอ. ไปถึงแม่บ้าน ความคิดถือว่าก้าวหน้า ไม่ conservative เท่าหน่วยงานราชการอื่น ๆ ที่เคยเจอมา รับฟังทุกความคิดเห็น ทุกคนสอนงานเองโดยตรง สโคปงานไม่ได้ยากเกินความสามารถ บรรยากาศการทำงานดี บรรยากาศในลาวถือว่าดีเป็นเมืองที่น่าไป ปลอดภัย ห้างก็มี ที่เที่ยวก็มี รถไม่ติด เดินทางสะดวก คนน่ารักและใจดีมาก อาหารอร่อยทุกอย่าง เป็น 2 เดือนที่ดีมาก ๆ ถือเป็นอีก 1 ประสบการณ์ที่น่าประทับใจ